นอกจากการเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลแล้ว ผมคิดว่าการต่อทะเบียนรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องของการติดต่อหน่วยงานราชการที่ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
ตอนที่รถอายุยังไม่เกิน 7 ปี ผมก็ต่อทางอินเทอร์เน็ตมาตลอด เพราะขั้นตอนมันง่ายมาก แค่คลิ๊กไม่กี่ที พิมพ์นิดหน่อย จ่ายเงิน ไม่เกิน 5 วันก็ได้ป้ายสี่เหลี่ยมอันใหม่ส่งมาที่บ้านแล้ว
แต่พออายุรถเกิน 7 ปีแล้ว ก็ต่อทางอินเทอร์เน็ตแบบเดิมไม่ได้ แต่ยังเหลือช่องทางให้ต่อทะเบียนอีกหลายช่องทาง โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ตามนี้
- เสียภาษีรถแบบทั่วไทยได้ทุกสำนักงาน
- ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- ห้างสรรพสินค้า ( Shop Thru for Tax )
ซึ่งผมเลือกไปต่อทะเบียนรถยนต์ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขาอำเภอบางละมุง ที่พึ่งไปมาตอนต่อใบขับขี่ เพราะยังไงก็ต้องเอารถยนต์ไปตรวจสภาพที่ สถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ที่หน้าสำนักงานขนส่งอยู่แล้ว
โดยเอกสารที่ใช้ก็มีดังต่อไปนี้
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสำเนา
- หลักฐานการเอาประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ที่ยังไม่สิ้นอายุ (เอามาเต็มใบ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะฉีกส่วนล่างไปใช้ประกอบการต่อทะเบียน)
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป หรือรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป)
ไปถึงก็ยื่นเอกสารทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตรวจความเรียบร้อย แล้วเจ้าหน้าที่จะกดบัตรคิวให้ จากนั้นก็นั่งรอ ซึ่งผมได้คิว 314 ต้องรออีก 40 คิว บัตรคิวก็แจ้งเวลารอโดยประมาณไว้ที่ 40 นาที

รอไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็เปิดแถวใหม่ให้ พอถึงคิวก็ยื่นเอกสารทั้งหมดไป แล้วเจ้าหน้าที่การเงินจะคำนวณและแจ้งภาษีที่ต้องจ่ายให้ (วิธีคำนวณ ถ้าอยากรู้ว่าต้องเตรียมเงินไปเท่าไหร่) จากนั้นก็จ่ายเงิน รับใบเสร็จกับป้ายสี่เหลี่ยม กลับบ้าน

ขั้นตอนง่ายมาก แต่รอนานเหมือนกัน ถ้าใครไม่อยากเสียเวลา ก็ใช้บริการรับจ้างต่อทะเบียนรถได้ตามร้านรับทำพรบ.หรือร้านสอนขับรถ ค่าบริการ 100 – 300 บาท ส่วนผมวางแผนออกมาทำธุระอยู่แล้ว ก็เลยจัดการเองเลยดีกว่า